เหนื่อยง่าย อ่อนเพลียบ่อย อย่าชะล่าใจ!

ขอบคุณข้อมูลดี ๆ จากเพจหมอเจด ที่อธิบายเรื่องนี้ไว้อย่างเข้าใจง่ายมากค่ะ 👇
(จากเพจ: หมอเจด)

 

เหนื่อยง่าย น้ำตาลในเลือดสูง”

หลายคนพอได้ยินคำว่า “น้ำตาลในเลือดสูง” ก็มักจะนึกถึงเบาหวาน แต่จริง ๆ แล้วก่อนจะไปถึงขั้นนั้น ร่างกายก็มักส่งสัญญาณเตือนออกมาก่อน หนึ่งในอาการที่เจอบ่อยคือ “เหนื่อยง่าย เพลียบ่อย ไม่สดชื่น” ทั้งที่บางครั้งก็นอนพอหรือไม่ได้ทำงานหนักมากนัก วันนี้เลยอยากชวนมาดูกันครับว่าเบื้องหลังของอาการเหล่านี้เกี่ยวกับระดับน้ำตาลในเลือดอย่างไร

1. น้ำตาลสูงแต่ใช้ไม่หมด
เวลาน้ำตาลในเลือดสูงเกินไป อินซูลินที่ทำหน้าที่พาน้ำตาลเข้าเซลล์เริ่มทำงานได้ไม่เต็มที่ ทำให้พลังงานไม่ถูกส่งถึงกล้ามเนื้อและสมองตามที่ควรครับ ถึงจะมีน้ำตาลล้นอยู่ในเลือด แต่ร่างกายกลับรู้สึกหมดแรง เหมือนรถมีน้ำมันแต่เครื่องยนต์ดึงไปใช้ไม่ได้
.
2. น้ำตาลแกว่ง พลังงานเหวี่ยง
บางครั้งพอกินอาหารแป้ง–น้ำตาลเยอะ ๆ น้ำตาลในเลือดจะพุ่งสูง จากนั้นอินซูลินก็หลั่งมากเพื่อดึงลง ทำให้ระดับน้ำตาลตกฮวบ ผลคือรู้สึกวูบ เพลีย หิวซ้ำเร็วครับ
.
3. เกิดการอักเสบเรื้อรัง
น้ำตาลสูง ๆ ติดต่อกันทำให้หลอดเลือดและเซลล์ต่าง ๆ เกิดการอักเสบเล็ก ๆ ต่อเนื่อง ร่างกายเลยเหมือนมี “ไฟลนข้างใน” ตลอดเวลา
.
4. กระทบสมองและฮอร์โมน
สมองเป็นอวัยวะที่ต้องใช้น้ำตาลตลอดเวลา แต่ถ้าน้ำตาลสูงเกินไปก็ทำให้สารสื่อประสาทรวน สมดุลฮอร์โมนผิดปกติ
เลยมีอาการมึน เบลอ อารมณ์ไม่คงที่ รู้สึกหมดแรงใจไปพร้อมกับหมดแรงกาย
.
5. ทำให้การนอนแย่ลง
ระดับน้ำตาลสูงโดยเฉพาะช่วงกลางคืน อาจไปรบกวนวงจรการนอน ทำให้ตื่นบ่อย กระหายน้ำ ปัสสาวะบ่อย
เมื่อนอนไม่เต็มอิ่ม วันถัดมาก็จะยิ่งเหนื่อยง่ายและเพลียสะสม

ถ้าช่วงนี้รู้สึกว่า “เหนื่อยง่าย เพลียบ่อย” ทั้งที่ไม่ได้ทำงานหนัก ควรลองสังเกตพฤติกรรมการกินและสุขภาพโดยรวม เพราะบางครั้งร่างกายกำลังบอกเราว่าน้ำตาลในเลือดไม่ปกติอยู่ก็ได้ครับ วิธีดูแลไม่ยาก เริ่มจากลดแป้งขัดสี–น้ำตาล เลือกกินอาหารครบหมู่ ออกกำลังสม่ำเสมอ และตรวจสุขภาพประจำปีให้สม่ำเสมอ